เกร็ดความรู้
โกรธบั่นทอนสุขภาพ
เราทุกคนจะหนีไม่พ้นอารมณ์โกรธ
และความโกรธนี้น่ากลัวอาจทำให้เราโมโหสุดๆ
และลงมือทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้แต่อย่างน้อยถ้าเรามีสติพอสามารถระงับความโกรธให้ใจเย็นลงได้
จะส่งผลดีต่อสุขภาพทางด้านอารมณ์ของเรา เพราะยิ่งเราเจ็บ แค้น เคือง โกรธ
มากขึ้นเท่าไร รู้มั้ยว่าจะส่งผลเสียบั่นทอนสุขภาพ
เกี่ยวกับอวัยวะที่สำคัญภายในอีกด้วย
1. ผิวหนัง เวลาเราโกรธสมองจะขับสารพิษออกมาสู่เลือด
ซึ่งจะกระตุ้นรุขุมขน เป็นเหตุให้รูขุมขนอักเสบ
2. ต่อมไทรอยด์ เมื่อเราโกรธบ่อยๆ
การทำงานของต่อมไทรอยด์จะลดประสิทธิภาพการทำงานลง
3. สมอง เมื่อเราโกรธเลือดในปริมาณมากจะพุ่งขึ้นไปที่สมอง
รวมถึงความดันที่สูงขึ้น ทำให้การทำงานของสมองช้าลง
4. ปอด เมื่อผู้หญิงโกรธจะทำให้หายใจเร็วขึ้น
ไม่สามารถผ่อนคลายได้เป็นอันตรายต่อปอด
5. กระเพาะอาหาร ความโกรธจะทำให้เลือดไปเลี้ยงกระเพาะอาหารน้อยและช้าลง
6. หัวใจ เมื่อโกรธเลือดจะไปเลี้ยงสมองมาก ทำให้ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลง
ส่งผลให้หัวใจของเราทำงานหนักมากขึ้นหลายเท่า
7. ตับ น้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นเมื่อโกรธ กรดไขมันจะแตกตัว
ทำให้เกิดสารพิษในเลือดและเซลล์ตับมากขึ้น
ใครที่มองหาความสุขแต่ไม่เคยเจอ
ขอบอกว่าให้เลิกมองหา แล้วหันมาเปลี่ยนนิสัยบางอย่าง
ไม่แน่คุณอาจพบว่าความสุขมีอยู่รอบตัว กาลิท บรีน คอลัมนิสต์ชื่อดัง
ที่มีผลงานในนิตยสารไทม์ เดอะฮัฟฟิงตัน โพสต์
เสนอมุมมองเกี่ยวกับการสร้างความสุขได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการเพิ่มนิสัย 8 อย่างนี้เข้าไปในชีวิต
1.ฝึกที่จะสุขกับกิจวัตรประจำวัน เมื่อคุณบอกกับตัวเองว่าความสุขมีอยู่รอบตัวแม้แต่ในกิจกรรมที่ทำเป็นประจำทุกวัน
เมื่อนั้นความสุขก็เกิดขึ้นได้ตลอด ไม่เชื่อลองยิ้มรับกับความสุขเล็กๆ
จากการที่เพื่อนหยิบตารางเข้าคลาสออกกำลังกายที่คุณไปเป็นประจำมากให้ หรือ
ยิ้มให้ลูกเมื่อเขาสามารถเตรียมพร้อมที่จะไปโรงเรียนได้เร็วขึ้น 5 นาที
การฝึกเช่นนี้จะช่วยให้เมื่อมีปัญหาใดๆ เข้ามาในกิจวัตรประจำพวันของคุณ
คุณก็ยังสามารถมองหาความสุขที่ซ่อนอยู่ได้
2.ฝึกมองหาสิ่งดีๆ รอบตัว เช่น เมื่อมีใครคนหนึ่งยิ้มให้คุณ
เริ่มสนทนากับคุณ ลองมองว่านั่นคือเรื่องดี ไม่แน่ว่าในอนาคตคุณสองคนอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้
ถ้าฝึกให้เรารู้สึกดีกับเรื่องรอบตัวบ่อย ตัวคุณจะมีความสุขได้อย่างไม่รู้ตัว
3.ฝึกที่จะเปิดรับกับสิ่งใหม่ๆ โลกใบนี้ยังกว้างใหญ่
และมีอะไรอีกมากมายที่รอให้คุณออกไปพบเจอ เรียนรู้
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตอบรับกับสิ่งใหม่ๆ เช่น ลองกินอาหารแปลกใหม่
อ่านหนังสือแนวใหม่ หรือทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ลองประสบการณ์ใหม่ๆ
สารเอนดอร์ฟินในร่างกายคุณจะหลั่งออกมามากขึ้น
นั่นหมายถึงดัชนีความสุขในตัวคุณจะเพิ่มขึ้นด้วย
4.ฝึกที่จะแบ่งปันความสุขให้คนอื่น การสร้างรอยยิ้มและความสุขให้คนอื่น
ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณลองเอ่ยปากชมเสื้อเชิ้ตของเขา บอกว่าทรงผมนี้ของเขาเริ่ดสุด
หรือเอ่ยปากชมว่าเธอเป็นแม่ที่สุดยอด แน่นอนว่า
เมื่อคุณเริ่มเป็นฝ่ายหยิบยื่นความสุขให้ผู้อื่น
ความสุขนั้นก็จะย้อนกลับมาหาคุณเช่นกัน
5.ฝึกที่จะรับผิดชอบกับทุกประสบการณ์ที่เข้ามา และเปลี่ยนแปลงมันให้ดีขึ้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องเจอกับวันที่โชคไม่เข้าข้าง แผนงานไม่เป็นตามที่วางไว้
แทนที่จะอารมณ์เสียหงุดหงิดอยู่กับประสบการณ์ลบที่เข้ามา
ลองหาวิธีเปลี่ยนแปลงและแก้ไขมัน เพียงเท่านี้ความสุขของคุณก็จะเกิดขึ้น
6.คิดซะว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ไม่ว่าความทุกข์
หรือความสุข เข้ามาแล้วก็ผ่านไป
7.ฝึกที่จะเผื่อใจ อย่าคาดหวังว่าทุกสิ่ง จะต้องสมบูรณ์เพอร์เฟกต์
ไม่ใช่ทุกนาทีหรือทุกวันจะมีแต่ความสุข
ทุกคนต้องเผชิญกับเรื่องที่เลวร้ายและวันที่ไม่ดีบ้าง ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ต้องเจอกับวันร้ายๆ
ขอให้เตือนตัวเองว่าเป็นเรื่องธรรมดา และพาตัวเองกลับไปพบกับความสุขอีกครั้ง
8.ฝึกที่จะพาตัวเองไปอยู่ในวงล้อมของคนที่มีความสุข เพราะคนที่อยู่รอบข้างเรา
จะเป็นตัวสะท้อนว่าเราเป็นคนอย่างไรได้ดีที่สุด
ที่มา :http://www.thaihealth.or.th/Content/27838-
เว็บนี้ มีสาระมากมาก น่าสนใจมากค่ะ
ReplyDeleteมีประโยชน์ต่อผู้อ่านมากค่ะ น่าสนใจค่ะ
ReplyDeleteเนื้อหาดีมาเลยค่ะ น่าสนใจดี
ReplyDeleteเนื้อหาดีจ้า มีประโยชน์ต่อผู้อ่านมาก
ReplyDelete